Pro-Ject audio system
Tube Box S2
Price = 22,000 thb
Features
Suitable for MM and MC cartridges
Precise RIAA equalisation in two parts, passive/active
Fully discreet circuit design without OpAmps
2x ECC83 tubes (replaceable)
Front-sided Subsonic filter button
Front-sided Gain control
Ultra low noise circuitry with FET input stage
Dual mono circuitry for optimized channel separation
Polystyrene capacitors used where possible
Gold-plated RCA in- and outputs
External power adaptor and multiple internal power supplies
Well-filtrated high-voltage anode power supply
Sandwich alu/metal casing protects from vibrations and electromagnetic interference
Available in silver or black
ตั้งแต่ Pro-Ject เริ่มมีการผลิตโฟโนปรีแอมป์หลอดซีรีย์ Tube Box....Tube Box S2 นับเป็นเวอร์ชั่นที่ 4 ซึ่ง 3 รุ่นก่อนหน้านี้ก็คือ Tube Box, Tube Box ll , Tube Box S
ในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ส่อให้เห็นว่าทีมออกแบบของ Pro-Ject มีความเข้าใจและให้ความสำคัญในเรื่องของความแมทชิ่งระหว่างหัวเข็มกับปรีโฟโนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งพัฒนาผลิตภันท์ให้ตอบสนองกับความต้องการของนักเล่นในปัจจุบัน ที่เป็นคนรุ่นใหม่แต่ค่อนข้างจะจริงจัง
เนื่องจากยุคปัจจุบันได้มีการผลิตหัวเข็มออกมาเป็นจำนวนมากมาย และสเป็คของหัวเข็มก็มีความแตกต่างปลีกย่อยมากยิ่งขื้น อย่างเช่น ค่า output ของหัวเข็ม ยุคก่อน ๆ ก็จะมีความแตกต่างไม่มากนัก เช่น 0.1 mV /0.2 mV/ 0.5 mV / 2.5 mV และ 4 mV แต่ในปัจุบัน output ระหว่าง 0.1 mV - 9 mV ได้ซอยความแตกต่างของ Output Voltage ออกมาเป็นร้อยๆค่า ฉะนั้นปรีโฟโนในปัจจุบันที่เป็นรุ่นใหญ่ๆราคาแพง จึงสามารถเลือก Gain ขยายหัวเข็มได้ตั้งแต่ประมาณ 30 dB ไปจนถึง 80 dB เพื่อให้มีอัตราการขยายสัญญาณได้ครอบคลุมกับค่า Output ของหัวเข็ม
ค่า Output ของหัวเข็ม กับ Gain ขยายของปรีโฟโนนั้นสำคัญอย่างไร.....ถ้าจะอธิบายให้ชัดและเข้าใจง่ายๆ ก็เปรียบเสมือน ลำโพงกับแอมปลีฟายเออร์ที่ต้องแมทชิ่งกัน ....หลักการที่สำคัญก็คือ แอมป์ต้องมีกำลังและความสามารถที่จะขับลำโพงให้ออก ถ้าแอมป์ขับลำโพงไม่ออกหรือไม่แมทชิ่งกับลำโพง ก็ไม่มีทางที่จะได้เสียงที่ดีได้ ไม่ว่าชุดของคุณจะมีราคาแพงขนาดไหนก็ตาม
หัวเข็มกับปรีโฟโนก็เช่นกัน ถ้าปรีโฟโนไม่แม็ทชิ่งกับหัวเข็มหรือมีกำลังที่ไม่พอที่จะขับหัวเข็ม หรือมีอัตราขยายที่มากเกินไปสำหรับหัวเข็ม...ก็ไม่สามารถจะให้เสียงที่ดีได้ ไม่ว่าหัวเข็มหรือปรีโฟโนนั้นจะมีราคาแพงขนาดไหนก็ตาม
ตามสเป็คคร่าวๆที่เป็นสากลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันควรเป็นดังนี้
หัวเข็ม MM และ MI จะมีค่า Output ส่วนใหญ่ที่ 4 mV และปรีโฟโน MM จะมีอัตราขยายที่ 40 dB โหลดความต้านทานที่ 47,000 โอห์มขื้นไป
หัวเข็ม MC ตามมาตรฐาน Output = 0.5 mV และปรีโฟโน MC จะมีอัตราขยาย ที่ 60 dB โหลดความต้านทานที่ 100 - 47,000 โอห์มขื้นไป ถ้าได้ตามข้างบนนี้รับรอง 90 เปอร์เซ็นต์เสียงดีแน่นอน จะมากน้อยขื้นอยู่กับคุณภาพและราคา
ถ้าเป็นนักเล่นเมื่อประมาณ 25-30 ปีที่แล้ว เชื่อว่าทุกคนจะรู้จัก หัวเข็ม MC High / Sumiko Bluepoint ซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในยุคนั้น.....Sumiko Bluepoint เป็นหัวเข็ม MC high ที่มี Output อยู่ที่ 2.5 mV ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยมีหัวเข็ม MC high Output นักเล่นมือใหม่จึงแตกตื่นกันเป็นอย่างมาก.........หัวเข็ม MC high output ผลิตขื้นมาเพื่อเอาใจ และเจาะกลุ่มตลาดมือใหม่ ที่อยากเล่นหัว MC แต่ ไม่มีปรีโฟโน MC เพราะ หัวเข็ม MC high สามารถเล่นกับ โฟโน MM ได้ คือไม่ต้องลงทุนซื้อปรีโฟโนใหม่ ซึ่งปรีโฟโนในยุคก่อนที่แถมมากับพวกอิทริเกร็ตท์ในยุคนั้นส่วนใหญ่จะเป็น MM
ข้อดีของหัวเข็ม MC hight ก็คือ สามารถ เล่นได้ทั้งปรีโฟโน MM และ MC แต่ถ้าถามว่าแมทชิ่งกันไหม ก็ต้องตอบว่า ...ไม่... เพราะ ปรีโฟโน MM 40 dB ต้องการ output ที่ 4 mV และ MC 60 dB ต้องการ output ที่พอดีที่ 0.5 mV
ผลลัพท์ที่ตามมาก็คือ เมื่อ เอาหัว MC hight 2.5 mV ไปเล่นกับ โฟโน MM เราก็จำเป็นต้องเร่งกำลังขยายของปรีแอมป์ไปมากกว่าปกติเพื่อที่จะให้โวลุ่มในการฟังที่พอดี ถ้าปกติเราฟังที่ 9 นาฬิกา แต่เราจำเป็นต้องเร่งไปถึง 12นาฬิกา ผลที่ได้ก็คือ กลางแหลมจะพุ่งนำหน้าเสียงทุ้มคือเสียงทุ้มตามไม่ทันเพราะกำลังขับไม่พอ ตรงกันข้าม ถ้านำหัว MC high 2.5 mV ไปเล่นกับปรีโฟโน MC ที่ต้องการ output แค่ 0.5 mV ก็จะมีกำลังขยายมากเกินไป แค่เร่งโวลุ่มไปเพียง 7 นาฬิกาเสียงก็ดังมากแล้ว ผลที่ได้ก็คือจะเกิดอาการ Overload คือจะมากมายไปด้วยดิสทรอชั่น ......เพราะหัวเข็ม 2.5 mV ต้องการกำลังขยายที่พอดี ประมาณ 50 dB...
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วปรีโฟโนที่มีราคาต่ำกว่า 20,000 บาท จะกำหนดค่ามาแค่ 40 dB และ 60 dB เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า ต้องจำกัดหัวเข็มในการเล่นระหว่าง ประมาณ 3.5- 7 mV ที่เป็น MM และ 0.35-0.7 ที่เป็นโฟโน MC เท่านั้น จึงจะได้คุณภาพเสียงที่ดี
ในข้อจำกัดนี้ Tube Box S2 ได้ช่วยเติมเต็มให้นักเล่นสามารถเล่นหัวเข็มได้เกือบทุกชนิดที่ได้มีผลิตขื้นมา ยกเว้นพวกหัวระดับเทพ Super low ที่ต่ำกว่า 0.2 mV เท่านั้นที่ไม่สามารถเล่นได้ ...โดย กำหนดกำลังขยาย มาให้ถึง 6 ค่า คือ 40,43,50,53,60,63 dB การใช้งานก็ง่ายมาก เพียงกดปุมเลือกค่าที่ด้านหน้าตัวเครื่องได้เลย
Pro-Ject Tube Box สามารถอยู่ในสายการผลิตมาได้ถึงประมาณ 30 ปี จนเป็นเวอร์ชั่นที่ 4 ในปัจจุบัน น่าจะการันตีได้ในระดับหนึ่งในเรื่องของคุณภาพเสียง และดีไซน์ที่สวยงามกระทัดรัด โดยเฉพาะราคาเพียง 22,000 บาท เหมาะสมสำหรับมือใหม่ที่ค่อนข้างจริงจัง