EP.3 ....18 February 2023....ซ.อารีย์สัมพันธ์ 6...Simple but good enough and Nottingham Space 294

Nottingham Analogue / Space 294 

Hana ML

พี่สมิท

ซ. อารีย์สัมพันธ์ 6

18 Feb 2023

           เป็นชุดเล็กๆ ในห้องนอน ไม่ได้ปรับอคูสติก ....ห้องนี้ของพี่สมิทเปลี่ยนลำโพงค่อนข้างบ่อย คู่ก่อนๆก็ไม่ใช่ไม่ดี แต่คงเพราะแค่อยากได้ประสบการณ์ใหม่ไปเรื่อยๆ

       ก่อนหน้า ชุดนี้จะมีปัญหาอยู่แค่อย่างเดียว ก็คือมีสัญญาณ RF รบกวนค่อนข้างมาก ไม่รู้ว่าเพราะอยู่ใกล้กรมประชาสัมพันธ์เกินไปหรือเปล่า แต่ปัจจุบันปัญหานี้ไม่มีแล้วหลังจากแมทชิ่งทุกอย่างค่อนข้างลงตัว

          Nottingham Space 294 เป็นเทิร์นเทเบิลเพียงรุ่นเดียวของ Nottingham ที่มีความกว้างของแพล็ตเตอร์ขนาด 14 นี้ว ( ทั่วๆไป 12 ")

      ..Platter กว้างๆมีข้อดีคือ แรงเฉื่อยของรอบวงในการหมุนจะเสถียรและราบรื่นกว่าแพล็ตเตอร์ที่แคบกว่า นอกจากนี้ยังให้เวทีเสียงที่กว้างกว่าเล็กน้อยอีกด้วย

          นอกจากนั้น Nottingham ยังใช้มอเตอร์แบบ Low torgue  ข้อดีคือสปีดในการหมุนต่อรอบ จะเสถียรกว่า และบุคลิกของเสียงจะมีความเป็น อนาล็อกมากกว่ามอเตอร์แบบ high torgue

           Torque แรงบิดกับเครื่องเล่นแผ่นเสียง บุคลิกเสียงที่แตกต่างกันของเครื่องเล่นแผ่นเสียง เกิดมาจากการผสมผสานกันขื้นมาจากหลายๆปัจจัย ทั้ง ดีไซน์,วัสดุ,ขนาด,ระบบขับเคลื่อน,ระบบซัสเพนชั่น และ แรงบิดของมอเตอร์ก็เป็นหนึ่งในตัวแปรนั้น แรงบิดหรือแรงฉุดของมอเตอร์ในเครื่องเล่นแผ่นเสียง จะมีความแตกต่างกัน ตามรสนิยมของผู้ออกแบบ และจะมีผลต่อเสียงคือ

      มอเตอร์แรงบิดต่ำ Low torque จะให้สไตล์เสียงที่ ผ่อนคลาย ไหลลื่น ไดนามิกคอนทราสต์โดดเด่น

     มอเตอร์แรงบิดสูง High torque จะให้บุคลิกเสียงที่ อิมแพ็ค กระชับ หนักแน่น อิมเมจชัด ไดนามิกซ์ทรานเชียนต์โดดเด่น เปรียบเสมือนรถที่มีแร็งม้าเท่าๆกัน คันที่มีแรงบิดต่ำกว่า จะออกตัวได้ช้ากว่าต้องรอรอบ แต่ขับสบายเมื่อเดินทางไกล ส่วนคันที่แรงบิดสูง จะออกตัวเร่งแซงได้ดีกว่า ขับสนุก

      .......เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นใหญ่บางยี่ห้อ เช่น Technics SP 10 R จึงมีวงจรปรับ torque มาให้เลือกเล่นได้ถึง 5 ระดับ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เครื่องเล่นแผ่นเสียงทุกรุ่นของ Nottingham Analogue ใช้มอเตอร์แบบ Low torque ที่มีแรงบิดต่ำมาก ขั้นตอนสตาร์ทเครื่อง จึงต้องใช้มือปั่นช่วย แต่เมื่อแพล็ตเตอร์หมุนเข้ารอบแล้ว จะมีความราบเรียบ สปีดเที่ยงตรงมาก ตอนต้องการหยุดก็ใช้มือจับแพล็ตเตอร์หยุดได้ทันที บุคลิกเสียงของ Nottingham จึงโดดเด่นในแง่ของความเป็นอนาล็อกสูง คือฟังเป็นธรรมชาติ ความรู้สึกว่าเสียงจัดหรือเครียดจะมีน้อย

          Hana ผลิตแต่หัวเข็ม Moving coil , Low output และ high output .....มีทั้งหมด 8 รุ่น EL,EH,SL,SH,ML,MH,Umami Blue,Umami Red

      Hana ML เป็นหัวเข็มระดับกลางๆที่ค่อนข้างจริงจัง....เป็นหัวเข็มรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน ในระดับราคา ไม่เกิน 50,000 บาท ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงไปทั่วโลก ...ให้บุคลิกเสียงที่อบอุ่นมีเนื้อเสียงและในขณะเดียวกันก็ยังให้รายละเอียดได้อย่างเพียงพอ

            Nottingham Space 294 ตัวนี้ พี่สมิทซื้อผมไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ....ก่อนหน้านั้นก็จะเป็น Pro-Ject The Classic และ VPI Classic 1 ตามลำดับ

          ส่วนหัวเข็ม Hana ML ติดเมื่อ 2 ปีที่แล้วแทน Audio-Technica AT-33 SA ...ตอนนั้นใช้ Protractor ของ Bearwald ....หลังจากนั้น พี่สมิทก็คงเล่นเองปรับเองมาตลอด จนถึงเวลาหนึ่งก็คงเกิดความไม่แน่ใจว่า ที่ทำมาถูกต้องหรือไม่ 

         การเซ็ตมุม VTA ไว้สูงเกินไป อาจทำให้เสียงฟังดูโปร่งฟังสบาย แต่จะขาดความเข้มข้นของเนื้อเสียง....ควรปรับให้ได้เสียงหนา แต่ไม่ถึงกับทึบ สิ่งที่จะได้ตามมาก็คือความอิ่มฉ่ำของเนื้อและปลายเสียง และอารมณ์ของเพลงก็จะตามมา...อารมณ์ของเพลงก็คือเมื่อฟังเพลงสนุกก็โยกหัวเคาะเท้าไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อฟังเพลงเศร้าก็อาจมีน้ำตาไหลอาบแก้ม

         ปรับเซ็ตใหม่ครั้งนี้  อยากเปลี่ยนบุคลิกเสียงนิดหน่อย เลือกใช้ Protractor ของ Stevenson เน้นปลายของเสียงแหลมไม่ให้เนียนจนเกินไป ติดหยาบนิดๆ จะทำให้ฟังได้ตื่นเต้นเร้าใจมากขื้น... เพิ่มน้ำหนัก tracking F จาก 2.0g ไปที่ 2.1 g ดึง VTA ลงมาในระดับมาตรฐาน Finetune อีกนิดหน่อยตามความรู้สึก

     ผลที่ตามมาก็คือ พี่สมิทฟังเพลงมีความสุขมากขื้น ฟังได้นานไม่เบื่อ

    ....จากที่เคยผ่านชุดเครื่องเสียงมาค่อนข้างเยอะ พบข้อดีของชุดธรรมดาๆ ห้องฟังธรรมดาๆ ก็คือ สามารถฟังเพลงได้เลยอย่างมีความสุข ถึงจะไปได้ไม่สุด แต่ก็ไม่ค่อยมีปัญหา...อาจเป็นเพราะเครื่องไม่ได้ขี้ฟ้องเหมือนชุดระดับ super hi-end ก็เป็นได้